เมนู

3. อสังคหิเตนสังคหิตปทนิทเทส


[175] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยเวทนาขันธ์ สัญญา-
ขันธ์ สังขารขันธ์ สมุทยสัจ มัคคสัจ
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้
โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้น สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์
อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ธรรมเหล่านั้นยกเว้นนิพพานโดยความเป็นขันธ์แล้ว
สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[176] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยนิโรธสัจ โดยขันธ-
สังคหะ แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้น
สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 4 อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[177] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยชีวิตินทรีย์ โดยขันธ-
สังคหะ แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสงเคราะห์ ธรรมเหล่า
นั้นยกเว้นนิพพานโดยความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 2 อายตนะ
1 ธาตุ 1.
[178] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยอิตถินทรีย์ ปุริสินทรีย์
สุขินทรีย์ ทุกขินทรีย์ โสมนัสสินทรีย์ โทมนัสสินทรีย์ อุเปกขินทรีย์
สัทธินทรีย์ วิริยินทรีย์ สตินทรีย์ สมาธินทรีย์ ปัญญินทรีย์ อนัญญ-
ตัญญัสสามีตินทรีย์ อัญญินทรีย์ อัญญาตาวินทรีย์ อวิชชา สังขาร
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ผัสสะเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย เวทนา
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ตัณหาเพราะเวทนาเป็นปัจจัย อุปาทานเพราะ
ตัณหาเป็นปัจจัย กัมมภพเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
โดยขันธสังคหะ

แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้นยกเว้นนิพพาน
โดยความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[179] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วย ชาติ ชรา มรณะ ฌาน
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรม
เหล่านั้น ยกเว้นนิพพานโดยความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 2
อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[180] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยโสกะ ทุกข์ โทมนัส
อุปายาส สติปัฏฐาน สัมมัปปธาน อัปปมัญญา อินทรีย์ 5 พละ 5
โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8 ผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา
อธิโมกข์ มนสิการ เหตุธรรม เหตุสเหตุกธรรม เหตุเหตุสัมปยุตต-
ธรรม
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ
ธรรมเหล่านั้น ยกเว้นนิพพานโดยความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 3
อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[181] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยอัปปัจจยธรรม อสัง-
ขตธรรม
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ
ธรรมเหล่านั้น สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 4 อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[182] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยอาสวธรรม อาสว-
สาสวธรรม อาสวอาสวสัมปยุตตธรรม
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์
ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้น ยกเว้นนิพพานโดย
ความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1.

[183] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยสัญโญชนธรรม คันถ-
ธรรม โอฆธรรม โยคธรรม นีวรณธรรม ปรามาสธรรม ปรามาส-
ปรามัฏฐธรรม
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุ
สังคหะ ธรรมเหล่านั้น ยกเว้นนิพพานโดยความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้
ด้วยขันธ์ 3 อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[188] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยเจตสิกธรรม จิตต-
สัมปยุตตธรรม จิตตสังสัฏฐธรรม จิตตสังสัฏฐสมุฏฐานธรรม จิตต-
สังสัฏฐสมุฏฐานสหภูธรรม จิตตสังสัฏฐสมุฏฐานานุปริวัตติธรรม

โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้ โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ ธรรม
เหล่านั้น ยกเว้นนิพพานโดยความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 1
อายตนะ 1 ธาตุ 1.
[185] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยจิตตสหภูธรรม จิตตา-
นุปริวัตติธรรม
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้โดยอายตนสังคหะ
ธาตุสังคหะ ธรรมเหล่านั้น ไม่มีขันธ์อะไร ๆ ที่สงเคราะห์ได้ สงเคราะห์
ได้ด้วยอายตนะ 1 ธาตุ 1.
[186] ธรรมเหล่าใด สงเคราะห์ไม่ได้ด้วยอุปาทานธรรม กิเลส-
ธรรม กิเลสสังกิเลสิกธรรม กิเลสสังกิลิฏฐธรรม กิเลสกิเลสสัมป-
ยุตตธรรม
โดยขันธสังคหะ แต่สงเคราะห์ได้โดยอายตนสังคหะ ธาตุสังคหะ
ธรรมเหล่านั้น สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ อายตนะ ธาตุ เท่าไร ? ธรรม
เหล่านั้น ยกเว้นนิพพานโดยความเป็นขันธ์แล้ว สงเคราะห์ได้ด้วยขันธ์ 3
อายตนะ 1 ธาตุ 1.
จบอสังคหิเตนสังคหิตปทนิทเทส

อรรถกถาอสังคหิเตนสังคหิตปทนิทเทส


บัดนี้ เพื่อจำแนก อสังคหิเตน สังคหิตบท พระผู้มีพระภาคเจ้า
จึงเริ่มคำว่า "เวทนากฺขนฺเธน" เป็นอาทิ. ในบทนี้ พึงทราบลักษณะ ดังนี้
ในวาระนี้ บทใดนับสงเคราะห์เข้ากันไม่ได้โดยขันธ์ แต่นับสงเคราะห์เข้ากัน
ได้โดยบทแห่งอายตนะและธาตุทังหลาย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำปุจฉาและ
วิสัชนา การนับสงเคราะห์ซึ่งบทนั้นโดยขันธ์เป็นต้น. ก็แต่ บท (อสังคหิเตน
สังคหิตะ) นั้น ย่อมไม่ประกอบในบททั้งหลายมีรูปขันธ์ วิญญาณขันธ์ และ
จักขายตนะเป็นต้น. เพราะว่า รูปขันธ์นับสงเคราะห์นามขันธ์ 4 โดยขันธ์
สงเคราะห์ไม่ได้. บรรดาธรรมเหล่านั้น แม้ธรรมหนึ่ง ชื่อว่า นับสงเคราะห์
ได้โดยอายตนะและธาตุทั้งหลายเหล่านั้น ก็ย่อมไม่มี. เมื่อมีคำถามว่า เวทนา
เป็นต้น นับสงเคราะห์เข้ากันได้โดยธัมมายตนะ มิใช่หรือ. ตอบว่า เวทนา
เป็นต้นที่นับสงเคราะห์เข้ากันได้โดยธัมมายตนะ แต่ไม่ใช่ธัมมายตนะ คือ รูป
ขันธ์. เพราะทรงจำแนกธัมมายตนะสักว่าเป็นสุขุมรูปโดยความเป็นรูปขันธ์
ฉะนั้น ธรรมเหล่าใด ที่นับสงเคราะห์เข้ากันได้โดยธัมมายตนะ ธรรมเหล่า
นั้น มิได้ชื่อว่า นับสงเคราะห์เข้าได้โดยรูปขันธ์. ขันธ์ 4 นอกนี้ ก็สงเคราะห์
เข้ากันไม่ได้ แม้กับวิญญาณขันธ์. บรรดาธรรมเหล่านั้น ธรรมแม้หนึ่ง ชื่อ
ว่านับสงเคราะห์เข้ากันได้โดยอายตนะและธาตุเหล่านั้นก็ย่อมไม่มี. เพราะความ
ที่บทเหล่านี้ นับสงเคราะห์เข้ากันอย่างนี้ไม่มีอยู่ บททั้งหลาย นอกนี้ก็ดี จึง
นับสงเคราะห์เข้ากันไม่ได้ในวาระนี้. ส่วนบทเหล่าใด ย่อมส่องถึงเอกเทศแห่ง
ธัมมายตนะอันไม่เจือด้วยวิญญาณหรือโอฬาริกรูป บทเหล่านั้น พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าทรงถือเอาในที่นี้. พึงทราบอุทานแห่งบทเหล่านั้น ดังนี้.